สมุนไพรไทยกับสุขภาพ โดย…บ้านคุณหมอ
ชื่ออื่นๆเช่น กะเบาข้าวแข็ง,กะเบาข้าวเหนียว,กะเบา,กะเบาเบ้าแข็ง(กลาง),มะกูลอ,กะตงคง(ลาว-เชียงใหม่),กะดงเบา(ลำปาง),กะเบาใหญ่(นครราชสีมา),เบา,กูลา(ปัตตานี),หัวค่าง(ประจวบคีรีขันธ์),กะเบาตึก,กะเบาดึก,กราเบา(เขมร),โอ่งจี๊(จีน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Hydnocarpus anthelminticus Pierre ex Laness. วงศ์ FLACOURTIACEAE
เป็นสมุนไพรไทยไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตรงทรงพุ่มกว้าง เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอมเทา
ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเวียนสลับ รูปหอกปลายแหลม รูปลักษณะของใบยาวประมาณ4-4.5 นิ้ว มีความกว้าประมาณ 1-1.5 นิ้ว กิ่งใบหนาทึบมาก และใบของมันจะมีรสเบื่อเมา ใบอ่อนจะมีสีแดง หรือสีชมพูอมแดง ใบแก่สีเขียวเข้ม
ดอก ออกตามซอกใบและปลายยอด สีขาวนวลกลิ่นหอมฉุน
ผล ผลค่อนข้างกลมขนาดใหญ่ ผิวเรียบ มีขน หรือเกล็ดสีน้ำตาลคลุม เปลือกมันหนาแข็ง ข้างในมีเมล็ดสมุนไพรไทย ซ่อนอยู่ภายในจำนวนมาก
สรรพคุณ
เมล็ด ในเมล็ดจะมีน้ำมัน เรียกว่า Chaulmoogra Oil และจะมีสารจำพวก glycerides อยู่ เช่น oleicacid,hydnocarpic acid,palmatic acid,chaulmoogric acid น้ำมันในเมล็ดใช้ แก้โรคผิวหนังทุกประเภท โดยนำเมล็ด 5-10 เมล็ด มาแกะเปลือกออก ตำให้ละเอียด เติมน้ำมันพืชลงไปพอควร คลุกเข้ากันจากนั้นนำมาทาผิวหนัง แก้โรคเรื้อน นำน้ำมันจากเมล็ด 3 มิลลิลิตร น้ำเชื่อม 40 มิลลิลิตร น้ำนมอุ่น 30 มิลลิลิตร น้ำ 160 มิลลิลิตร ผสมเข้ากันกินวันละ 3 เวลา หลังอาหาร หรือใช้น้ำมันจากเมล็ดฉีดเข้าผิวหนัง กล้ามเนื้อ ให้ซึมผ่านแผล(direct infusion)เลย ในครั้งแรกใช้ 1.5 มิลลิลิตร ต่อมา 1 มิลลิลิตร สัปดาห์ละครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็น น้ำมันใส่ผม รักษาโรคบนศีรษะ คุดทะราด แก้มะเร็ง
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
รักษาโรคเรื้อน วัณโรค ทำให้อักเสบ กระตุ้นการหายใจ ยับยั้งมดลูกบีบตัว ระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร ยับยั้งมะเร็ง ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านยีสต์ แก้ไข้ คลายกล้ามเนื้อเรียบ กระตุ้นการเกาะกลุ่มของเม็ดเลือด